ลิลลี่ (อังกฤษ: Lily ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Lilium)
ลิลลี่เป็นไม้ประเภทหัวมีถิ่นกำเนิดแถบทวีปเอเชียตอนกลาง มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ไม่มีกลิ่นยกเว้นบางชนิดจะมีกลิ่นหอม(ฉุน) พันธุ์ลิลลี่ที่ปลูกกันส่วนใหญ่ในบ้านเรามี 4 ประเภท ได้แก่
1. ลิลลี่ปากแตร หรือ Longiflorum hybrid และ trumpet hybrid ลักษณะคล้ายปากแตร โดยโคนกลีบจะเชื่อมติดกันแล้วแยกออกเฉพาะปลาย มี 6 กลีบ เดิมมีสีขาวและมีกลิ่นหอม แต่เมื่อมีการปรับปรุงพันธุ์ทำให้มีหลากสีขึ้น ได้แก่ สีเหลือง ชมพู ม่วง แต่ไม่มีกลิ่นหอม ลิลลี่ประเภทนี้ดอกอ่อนจะตั้งขึ้น เมื่อดอกแก่จะนอนลงขนานกับพื้นดิน พันธุ์ที่นำเข้ามาปลูก เช่น โกลเด้นฮาร์ชัน ฮิโนโมโต้ พิงค์ เพอร์เฟ็กชั่น สเปลเดอร์ และ ทรัมเป็ตเยลโลว์ เป็นต้น
2. ลิลลี่ลูกผสมเอเชีย หรือ Asiatic hybrid เป็นประเภทที่นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอกมากที่สุดกลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะแยกออกจากกันไม่มีกลิ่นหอม ดอกมีทั้งชนิดที่มีจุดประเล็กน้อยและไม่มีเลย มีหลากสี ได้แก่ ขาว ครีม เหลือง ส้ม ชมพู แดง ลิลลี่ประเภทนี้ช่อดอกจะตั้งขึ้นไม่คว่ำหน้าเหมือนชนิดอื่นเมื่อให้ดอกแล้วจะเกิดหัวเล็ก ๆ ตามซอกใบ ซึ่งสามารถนำไปขยายพันธุ์เป็นต้นแม่ต่อไปได้ พันธุ์ที่นำเข้ามาปลูก เช่น คอนเนกติกัตคิง ออร์คิดบิวตี้ และ มองต์บลังก์
3. ลิลลี่ลูกผสมตะวันออก หรือ Oriental (Japanese) hybrid กลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะแยกออกจากกัน มีกลิ่นหอมแรง ลักษณะเด่นคือกลีบดอกด้านในคล้ายหนวดยื่นออกมาเป็นจำนวนมาก มีหลากสี ได้แก่ ขาว ชมพู แดง ลิลลี่ประเภทนี้จะออกดอกในแนวนอนขนานกับพื้นดินมีขนาดของใบกว้างกว่าพันธุ์อื่น ๆ พันธุ์ที่นำเข้ามาปลูก เช่น แอดแลนติกสตาร์ คาซาบลังก้า และ สตาร์กาเซอร์
4. ลิลลี่ดอย หรือ Thai native Lily (L. primulinum var. burmaniacun) กลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะแยกออกจากกัน มีกลิ่นหอมแรงโดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น เป็นลิลลี่พันธุ์พื้นเมืองของไทยอยู่ทางภาคเหนือตามดอยต่าง ๆ เช่น ดอยอ่างขาง ดอยอินทนนท์ และดอยปุย ลักษณะเด่นคือเมื่อดอกบานจะคว่ำหน้าลง ดอกสีเหลืองเข้ม มีปื้นสีน้ำตาลเข้มอยู่บริเวณใจกลางดอกและมีจุดประสีน้ำตาลอยู่มากมาย
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ